ลงทุน 2 แสน เจ๊งยับ พ่อค้าแชร์ประสบการณ์ ออกร้านครั้งแรก งาน บิ๊กเมาน์เท่น

ควันหลงงาน Big Mountain 2022 ผู้ค้าในงาน โพสต์ประสบการณ์ ลงทุนไปกว่า 2 แสน ออกร้านหนแรกในงาน แต่สุดท้ายเจ๊งไม่เป็นท่า ยอมรับผิด ด้วยเหตุว่าไม่เคยไปมาก่อน

วันที่ 14 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวกล่าวว่า โลกโซเชียลมีการแชร์โพสต์จากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านค้าที่ไปเปิดร้านขายข้างในเทศกาลดนตรีใหญ่ที่สุดแห่งระดับประเทศ อย่าง บิ๊กเมาน์เท่น มิวสิก เฟสติวัล 2022 (Big Mountain Music Festival 2022) หรือ BMMF12 ที่ออกมาให้ความเห็น ทำนองว่า จบงาน จบชีวิต ไปกับบิ๊กเมาน์เท่น

พร้อมชี้แจงว่า การไปเปิดร้านครั้งนี้ เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำที่สุดในชีวิต เนื่องจากว่าลงทุนไปกว่า 2 แสนบาท เงินลงทุน ก็จำเป็นต้องไปกู้มา กล่าวถึงว่าได้คำยืนยันจากผู้จัดงาน ที่ให้เตรียมอาหารไว้วันละ 2,500 เสิร์ฟ ก็เลยรู้สึกว่ายอดจำหน่ายงานนี้น่าจะได้เป็นแสนแน่นอน

งาน บิ๊กเมาน์เท่น

แต่เมื่อเปิดขายวันแรก กลับได้มาพบว่า งานนี้ไม่ใช่มหกรรมการแสดงดนตรี Big Mountain 2022

แต่เป็นราวกับงานเดินทางไกล งานแฟชั่น อื่นๆอีกมากมาย เละเทะมาก การจัดการระบบน้ำ น้ำแข็ง ห้องสุขา ที่นั่งของลูกค้า และอื่นๆกับค่าที่ 5 หมื่นบาท สรุปว่าไม่มี

ทำให้การขายในงานนี้ ขาดทุน วอดวาย และ ว่าเข็ดหลาบแล้วกับงานขายฝัน ตอนนี้สงสารเมียมาก ที่ไหนจะเจ๊ง และต้องหาเงินจ่ายหนี้

ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาให้ความคิดเห็นปริมาณมาก ทั้งแสดงความเห็นใจผู้ค้า ขณะที่บางส่วนก็เข้ามาแสดงความเห็นว่า ของกินอย่างต้มเล้ง อาจจะไม่เหมาะสมกับงานแบบนี้ เหตุเพราะกินไม่สะดวก นอกเหนือจากนั้น บางส่วนยังเข้ามาแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า บางโอกาสผู้ค้าบางทีอาจจะจะต้องเรียนรู้พื้นที่ก่อน ว่าเหมาะกับของกินที่ตนเองขายหรือไม่

ก่อนที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก จะเข้ามาอธิบายเพิ่มเติม ถึงสาเหตุที่เลือกไปขายในงานนี้ ว่า

1. มีทีมงานติดต่อมาจากงานใหญ่ระดับประเทศ

2. ทีมงานแจ้งว่าร้านเราถูกคัดเลือกให้เข้าไปขายเล้งในงาน และทีมงานได้คัดร้านค้าเพื่อให้หลากหลาย ไม่ใช่ใครอยากไปก็ไปได้

3. คนแสนกว่าคน ขายบัตรหมดภายใน 1 วัน

4. ให้ร้านค้าเตรียมของให้พร้อมขาย ขั้นต่ำวันละ 2,500 เสิร์ฟ เพื่อให้เพียงพอต่อลูกค้า (บางร้านอ้างว่าทีมงานให้เตรียม 3,000-5,000 เสิร์ฟ)

และด้วยความมั่นใจว่าทีมงานทำการตลาดมาดี มีความคิดเห็นว่างานใหญ่ บวกกับทีมงานพูดว่า ขนาดหมูกระทะและยำยังไปเลย และว่ามีที่นั่ง มีพื้นที่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ทางร้านก็เลยโอเค

แต่เมื่อไปถึงงานวันแรก จึงรู้ดีว่าไม่ใช่ เปิดร้านมา แดดส่อง ฝุ่นเยอะ น้ำ และ ถังใส่น้ำแข็งก็เอารถเข้ามาส่งไม่ได้ ก็เลยช้า และ ไม่เพียงพอ พวกเราก็เปลี่ยนเมนูอาหาร แต่ประเด็นคือ ทำอะไรก็ไม่ทันแล้ว ลำบากแล้ว

อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับในความผิดพลาดคราวนี้ ที่ไม่เป็นมืออาชีพพอ ไม่เคยไปงานดังกล่าวเลยสักครั้ง นี่เป็นครั้งแรก มั่นใจและสำคัญตัวมากเหลือเกิน และ ไม่เรียนรู้ให้ดีเอง หลังจากนี้ยอมรับสภาพ และ ต้องกลับมาเดินหน้าขายเล้ง หาเงินจ่ายหนี้ที่กู้ไปลงทุนถัดไป

นอกจากนั้น ยังมีคนเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า เจ้าของเฟซบุ๊ก ไม่ใช่ร้านเดียวที่เจ๊ง แต่กลับซึมเซาทั้งโซน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโซนหัววัวกับไข่เจียว ซึ่งข้าวไข่เจียวน่าจะเป็นอาหารที่ขายง่ายที่สุดของงานนี้ โดยคนโดยมากไปกองอยู่ที่โซนหลัก ทำให้ร้านค้าบริเวณนี้แสนสาหัสกันทั่วหน้า

พร้อมแนะนำแนวทางแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็น แสดงป้ายที่ชัดเจน อยู่สูง และ มีแสงไฟสะดุดตา, มีแผนสำหรับการที่และไกด์บุ๊กแจกผู้ร่วมงานทุกคนอย่างทั่วถึง เพราะเหตุว่าในงานสัญญาณไม่ดี ต่อให้เซฟรูปแผนที่ไป แต่หน้างานมันไม่เหมือนในแผนที่เลย แนวต้นไม้ แนวกั้นก็ไม่มี พอมาหน้างานก็งง อีกทั้งไกด์บุ๊กอาหารก็ควรจะมี.

โผล่อีก ! ผู้ค้าเปิดโปง Big Mountain 2022 ระบบสุดแย่ เจ๊งยับขาดทุน 3 แสน ต้องมานั่งหาเงินชำระหนี้

ผู้ค้าอีกรายโผล่เปิดเผยคอนเสิร์ต Big Mountain ทีมงานระบบสุดห่วยแตก ห้ามรถน้ำเข้ากระทั่งขายสินค้าไม่ได้ แถมการันตรี 3,000 เสิร์ฟ สุดท้ายเจ๊งยับขาดทุน 3 แสน จำเป็นต้องมานั่งหาเงินจ่ายหนี้

ล่าสุด (14 ธ.ค. 2565) มีผู้ค้าอีกคนที่ออกมาแชร์ประสบการณ์ เตือนผู้อื่นให้ตัดสินใจให้ดีก่อนร่วมเป็นร้านค้างานบิ๊กเม้าท์เท่น โดยระบุว่า จุดเริ่มต้นมาจากการตัดสินใจส่งร้านเข้าไปเลือก ด้วยเหตุว่าชอบไปเทศกาลดนตรีอยู่แล้ว เลยมีความรู้สึกว่าคงจะลองส่งเข้าไปดู ได้ดีแล้ว เป็นการต่อยอดธุรกิจและโปรโมตร้านไปในตัว คาดหวังกำไรนิดเดียว ขอเพียงแค่ไม่ขาดทุนก็พอใจแล้ว พอถึงวันประกาศผล ทางทีมงานโทร. มาแจ้งว่าได้รับเลือกเฟ้น

ลงทุน 2 แสน เจ๊งยับ พ่อค้าแชร์ประสบการณ์

ผังร้านค้าถูกแปลงกะทันหัน

พอใกล้วันงานมีการส่งแผนผังร้านค้ามาใหม่ มีการเปลี่ยนพื้นที่ เข้าไปข้างในลึกเข้าไปใกล้เวทีใหญ่ ให้เหตุผลว่าก่อนหน้านั้นมีฝนตกหนัก ทำให้บางพื้นที่เสียหายใช้ไม่ได้ เลยจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน นี้เข้าใจและเห็นว่าเหตุผลพอฟังได้ แต่คิดอีกทีก็เอ๊ะว่าแทนที่จะเลื่อนเข้าไปข้างใน ทำไมไม่เลื่อนออกมาภายนอก เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงง่าย พบร้านค้าได้เร็วขึ้น แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วจ้ะว่าทำไมทำแบบนั้นไม่ได้ ก็เพราะว่ามันจะไปแย่งลูกค้าของผู้สนับสนุน

ความอลหม่านในวันงาน

พอถึงวัน set up งาน (วันที่ 9) ทางร้านสั่งน้ำดื่มเข้าครัวไป 15 ถัง กะว่าจะได้เริ่มขายคนในพื้นที่งานก่อน สรุปตามน้ำถึงเที่ยงคืน น้ำไม่มาส่ง สาเหตุมาจากรถยนต์ขนส่งของทางโรงงานน้ำเข้าพื้นที่ไม่ได้ การ์ดไม่ให้เข้า ทำให้หลายๆร้านไม่ได้รับของตามที่สั่งไว้ พอถึงวันงาน จากตอนแรกที่ประชุมร้านค้า แจ้งว่าให้นำรถยนต์เข้าโหลดของในพื้นที่ได้ช่วงเวลา 06.00-08.00 พอถึงเวลาจริงแจ้งว่าไม่อนุญาตให้นำรถยนต์เข้าพื้นที่แล้ว จะขนของจำเป็นต้องใช้รถเข็นหรือแบกเข้างานเอง

ซึ่งพื้นที่งานเป็นหลุม แอ่งน้ำ ไม่ได้เอื้ออำนวยกับการใช้รถเข็นเลย และไม่อนุญาตให้รถน้ำดื่มกับรถน้ำแข็งเข้าพื้นที่ด้วย น้ำกิน 20 ลิตร 1,000 ถัง ทางผู้จัดให้โรงงานน้ำกินนำใส่รถเข็นส่งร้านค้าที่อยู่ห่างกันมาก ถึงมากที่สุด รถเข็นใส่ได้รอบละ 10 ถัง เท่ากับจำเป็นต้องเข็นรถอย่างต่ำ 100 รอบ ไม่นับว่าบางร้านสั่งใส่เติมภาชนะที่นำมาเพิ่มด้วย สรุปคืนวันนั้นรถเข็นโรงงานน้ำดื่มยางแตก งานวันที่ 2 ไม่มีน้ำส่งให้ร้านค้า